วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2552

Benefit

เนื่องด้วยเมื่อไม่กี่วันก่อน เพิ่งไปซึ้อเครื่องสำอางค์ benefit มา แล้วก็นั่งชื่นชมกับความงดงามและคุณสมบัติสุดเลิศของมัน เลยจุดประกายว่าเราน่าจะเขียนแนะนำเกี่ยวกับเครื่องสำอางค์ใน blog ของเราเอง เพื่อให้คนอื่นได้เข้ามาอ่าน และจะได้เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้เครื่องสำอางค์ของเพื่อนสาวทั้งหลาย ว่าเคยใช้ยี่ห้อไหนอะไรเวิร์ค เผื่อจะไปซื้อใช้มั่ง หุหุ











ก็ขอเริ่มด้วยอันแรกๆ ที่ซื้อมาเลย นั่นก็คือ Dallas ที่เป็น blush + bronzer ในตัวเดียวกันที่จะทำให้ใบหน้าเป็นประกายเจิดจรัสดุจต้องแสงอาทิตย์แม้อยู่ในร่ม (เป็นไง? สำนวนสุดยอดมั้ยล่ะ? 555) ถ้าปัดแก้มก็จะเป็น blush สีออกน้ำตาลธรรมชาติ ทำให้หน้าดูระเรื่อเป็นธรรมชาติเหมือนไม่ได้แต่งมาก แล้วถ้าเอามาปัดให้ทั่วหน้าบางๆ ก็จะทำให้หน้าดูไม่ขาวซีด และที่เริ่ดสุดๆ คือ เมื่อออกไปอยู่กลางแจ้งจะทำให้หน้าดูเป็นประกายสวยงาม ชอบสุดๆ คิดดูแม้แต่แม่เรายังชมเลยว่าเราแต่งแบบนี้แล้วงาม นานๆ แม่จะชม หุหุ


ส่วนอีกตัวนึงซื้อมานานแล้วเหมือนกัน เป็น Limited Edition (ตอนนี้ไม่มีที่เคาน์เตอร์แล้วล่ะ) คือ Pink to please the girl, gold to get the boy ชื่อยาวอลังการมาก จิงๆ แล้วก็คือ Pallate โทนสีชมพูทอง (มี eye shadow 3 สี กับ lip cream 3 สี) ขอบอกว่าทาทั้งตาและปาก + ปัดแก้มด้วย Dallas แล้ว ก็จะเหมือนเพิ่งไปเที่ยวทะเลกลับมาใหม่ๆ เรย ชอบสุดๆ ยิ่งเอาไว้แต่งตอนไปเที่ยวทะเลมานะ กิ๊บมาก ลุคประมาณสาว surf แถว Tahiti โฮะๆๆ ชอบ...ส่วนเซ็ตนี้ ได้มาตอนไปเมกา หลังจากการเตรียมตัวสืบหาคุณสมบัติของแต่ละตัวเป็นอย่างดี รวมทั้งแอบไปลองที่เคาน์เตอร์มาก่อน แล้วก็จดลิสต์ไปเกือบ 10 รายการ แต่แล้วพอไปถึงที่ Sephora (ร้านที่รวมเครื่องสำอางค์หลากหลายยี่ห้อ) ก็กลายเป็นรู้สึกเฉยๆ กับ benefit ไม่ค่อยอยากได้เท่าไหร่ ก็เลยสอยมาแค่นี้ เอาแค่ที่อยากได้จริงๆ เนื่องจากราคาไม่ต่างกันเท่าไหร่กับซื้อที่เมืองไทยเวลา Sale 10% อ่ะนะ (ซื้อที่นู่นมันต้องบวก Tax อีก 8.9%) ก็เลยคิดได้ว่ากลับเมืองไทยแล้วค่อยซื้อก็ได้ ตอนนั้นก็เลยซื้อยี่ห้ออื่นแทน หุหุ

อันแรกของเซ็ตที่ขอกล่าวถึงต้องนี่เลย Do it daily! เป็นครีมบำรุงที่ผสมกันแดด SPF10 ตอนนี้เราก็ใช้ทุกวันก่อนแต่งหน้า รู้สึกว่าให้ความชุ่มชื้นกับหน้าดี มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ทาแล้วสดชื่นเหมาะกับตอนเช้าๆ โดยรวมถือว่าใช้ได้ทีเดียว แต่ก็ไม่ได้เห็นผลชัดเจนนักในเรื่องลดริ้วรอย (อันน้อยนิดของเรา หุหุ) แล้วก็พวกรอยแดง รอยดำจากสิว แต่ขอให้คะแนน Packaging มากมาย ชอบนะ ดูธรรมดา แต่แอบกิ๊บ!

อันต่อมา ยังขอเป็นเรื่องการบำรุงอยู่ เนื่องจากว่าหลังๆ เริ่มสำเหนียกตัวเองได้ว่าเริ่มสูงวัยแล้ว (วัยรุ่นเซ็ง) ทำให้เริ่มหันมาทุ่มกับการบำรุง แต่เนื่องจากเราก็ยังไม่ได้มีริ้วรอยเด่นชัดมาก ก็เลยขอใช้แบรนด์เด็กๆ อย่าง benefit ไปก่อน (ไว้อายุมากกว่านี้แล้วค่อยใช้พวก Lancome, Estee อะไรประมาณนั้นแล้วกัน หุหุ) อันนี้ คือ Eyecon ก็เป็นบำรุงใต้ตาให้ไม่หมองคล้ำ ผลจากการใช้ทุกคืนก็ปรากฏว่า ไม่เห็นความแตกต่างอะไรเท่าไหร่ ก็แค่รู้สึกว่าได้บำรุงใต้ตานิดนึง แต่ก็ไม่เห็นช่วยให้ใต้ตาหายดำ อันนี้ไม่รู้เป็นเพราะเรานอนดึกประจำรึป่าวนะ?

ต่อมาคือ 10 (Ten) เป็น Highlight กับ Shading อย่างละครึ่ง อันนี้เราเคยไปลองแต่งที่เคาน์เตอร์มาแล้ว ตอนนั้นรู้สึกว่ามันเจ๋งมากเลย เพราะใช้ง่ายดี แค่ใช้แปรงที่เค้าให้มาจิ้มลงไปในกล่อง แล้วก็ปัดไล้ตามโหนกแก้ม โดยให้ด้านสีอ่อนอยู่บน แล้วสีเข้มอยู่ล่าง มันก็ทำให้แก้มด้านบนเราเหมือนกับปัดไฮไลท์เงาๆ ส่วนด้านล่างก็เหมือนทำเชดดิ้งให้หน้าดูเรียวขึ้น จากนั้นเราก็ตั้งมั่นไว้เลยว่าต้องไปสอยมาให้ได้ แต่พอซื้อใช้เอง กลับรู้สึกว่าทำไมมันไม่เหมือนตอนไปลองเลยอ่ะ เหมือนสีมันไม่ค่อยออกนะ ต้องปัดๆ ถูๆ อยู่หลายรอบกว่าจะเห็นสีชัดเจน ก็เลยค่อนข้างเซ็งอยู่เหมือนกัน ส่วน Gee...that was quick! เนี่ยเป็น Eye & Face Remover ที่เราซื้อมาตุนไว้ จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้แกะใช้เลย เนื่องจากยังใช้ Eye Remover ของ Clinique ไม่หมดเรย หุหุ แต่เมื่อดูจากปริมาณและราคาแล้ว ถือว่าน่าซื้อทีเดียว เพราะขวดใหญ่พอสมควร (8.0 US fl oz.) ราคาประมาณ 800 กว่าบาทเอง ถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่นแล้วถูกกว่านะ ขวดก็น่ารักกว่า สรุปว่ายังไม่ทันได้ใช้ก็ชอบแล้ว เอาไว้วันไหนลองใช้แล้วจะมาอัพเดทให้อ่านกันอีกทีนะคะ เหอๆ Pocketpal อันนี้ได้มาตอนวันเกิด จากเพื่อนๆ GSB The Gang ขอกราบงามๆ มานะที่นี้ ขอบคุณนะค้า... ปกติแล้วเราเป็นคนไม่ค่อยชอบใช้ tint ทั้งหลายแหล่ เพราะเป็นคนสีปากคล้ำ บวกกับเวลาทาแล้วเหมือนประหนึ่งว่าเพิ่งไปดูดเลือดมา แถมทำให้ดู 'สก๊อย' นิดๆ อ่ะ แต่พอลองใช้อันนี้แล้วโอเลยนะ เพราะเวลาทามันจะมีพู่กันที่ช่วยให้สีเสมอกันทั้งปาก แต่ต้องทากับปากแบบ plain เลยนะ (ไม่ต้องทาลิปบาล์ม ถ้าทาแล้วสีไม่ค่อยติด) จากนั้นก็ทากลอสใสที่อยู่อีกด้าน ก็จะได้ริมฝีปาสีแดงระเรื่อดูสุขภาพดีเงางาม ที่จริงมันเอามาทาแก้มได้ด้วยนะ แต่ไม่เคยลอง คือ งกอ่ะ ยิ่งมีน้อยๆ อยู่ เสียดาย สองอันนี้ซื้อตอนช่วงตรุษจีน Sale 10% พอดีเพื่อนออยล์ฝากเราซื้อ Dr. Feelgood แล้วคุณ BA บอกว่าทำไมไม่ซื้อให้ครบ 2,500.- ล่ะคะ จะได้ลดเพิ่มอีก 5% ด้วยความงกขึ้นสมองของเรา ผนวกกับอยากได้ของเล่นใหม่ ก็เลยหน้ามืดซื้อ "That gal" มาด้วยเลย (นี่ชั้นเสียตังค์เพราะแกเลยนะออยล์ เลยยืมมาถ่ายรูปทำ Review ก่อน เหอๆ)
เจ้า Dr. Feelgood นี่เป็นบาล์มที่ช่วยปกปิดรูขุมขน คล้ายๆ รองพื้นแต่ไม่มีสี ทำให้ดูเป็นธรรมชาติกว่า (งงสิว่าทำไมรู้ดี จริงๆ แอบลองที่เคาน์เตอร์มาแร้น หุหุ) เราว่าเวิร์คนะสำหรับคนที่มีรูขุมขนกว้าง แต่อยากแต่งหน้าอ่อนๆ เพราะจะช่วยให้หน้าเรียบเนียนขึ้น แต่ไม่ดูโบ๊ะเกิน ส่วนเรื่องคุมความมันตามที่ BA บอกนี่ไม่แน่ใจนะ เพราะเราว่าทาแล้วมันก็ดูมันๆ อยู่ ที่จริงเราไปสืบราคามา เมื่อเทียบกับสินค้าตัวอื่นของ benefit ที่ขายเมืองไทยราคาไม่ค่อยต่างกับที่เมกา แต่ตัวนี้ซื้อที่เมกาจะถูกกว่าหลายร้อยอยู่ ก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าเค้าตั้งราคายังไง อ้อ! ถ้าใครอยากลองใช้ดูก่อน เราขอแนะนำให้ไปหาซื้อตัว Tester ตามที่เค้าหิ้วของนอกมาขายนะ วันก่อนไปเจอขายอยู่ประมาณ 150.- ตลับเล็กๆ คล้ายลิปมัน ว่าเดี๋ยวจะไปซื้อมาลองใช้ดู เผื่อไม่เวิร์คจะได้ไม่เสียดายตังค์
ส่วน "That gal" อันนี้ จริงๆ มันก็คือ Primer ที่ช่วยให้หน้าสว่างขึ้นนั่นแหละ เคยไปอ่านรีวิวที่อื่นมา
เห็นว่าเวิร์ค อีกอย่างคือ ตอนลองที่เคาน์เตอร์เห็นความแตกต่างก่อน-หลังใช้ค่อนข้างชัดเลยทีเดียว เลยสอยมาซะ พอมาใช้จริงก็ประทับใจนะ เพราะด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ เหมือนหมากฝรั่ง (ทาแล้วอยากกิน) กับครีมสีชมพูอ่อนที่ปลิ้น ออกมาจากหลอดที่เหมือนกาวยู้ฮู (มันปลิ้นออกมาจริงๆ ดูรูปสิ) ทาแล้วหน้าจะดูสว่างใสอมชมพูขึ้น ถ้าคนที่หน้าไม่มีรอยแดงหรือดำ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้รองพื้น ใช้ตัวนี้ตัวเดียวเลยก็ได้ เวิร์คอยู่นะ
ส่วนอันนี้ล่าสุด เพิ่งไปถอยมาตอน Central Mid-night Sale เป็นสีออกใหม่เลย ชื่อ Coralista ตอนแรกไปลองที่เคาน์เตอร์ ตอนนั้น BA กำลังวุ่นวายกับลูกค้าคนอื่นอยู่ เราเลยลองเองเอาแต้มๆ ที่หลังมือ แล้วก็ เอ๊ะ! ทำไมมันมีแต่ประ
กายทอง ไม่เห็นมีสีเลย ก็ผิดหวังหน่อยๆ เนื่องจากตอนแรกดูในเน็ทแล้วอยากได้มาก ก็เลยตัดใจเดินจากไป แต่พอมาถึงตรงทางเข้าโซนพลาซ่า ก็มีบูทของ benefit ตั้งโปรโมทตัวนี้อยู่ เราก็เลยชะแว้บเข้าไปลองอีกรอบ (ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน) คราวนี้เราก็เลยถาม BA ตรงๆ เลยว่าทำไมลองแล้วสีไม่ออกเลย เค้าก็เลยบอกว่า มันต้องลองกับแก้ม แล้วเค้าก็ลองปัดที่แก้มเราเลย โอ้ววววว สีออกชัดทีเดียว ดูจากรูปอาจจะคล้ายสี Orgasm ของ Nars แต่พอปัดแล้วจะรู้ว่าไม่เหมือนเลย เพราะตัวนี้จะออกชมพูกว่า ปัดแล้วจะเหมือนมีทองฉาบอยู่บนแก้ม ยิ่งออกแดดจะเห็นชัดเลยว่าแก้มจะเงาๆ เหมือนพวกสาวๆ ที่เดินเล่นริมหาด โฮะๆๆๆ ชอบๆ







































































































































































































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น