วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2552
เกาหลี๊...เกาหลี
วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2552
วิธีดู LV Neverfull ว่าจริงหรือปลอม

สีแดง: มุมตรง ๆ แลัวก็หักลงมา.....โธ่ ของจริงเขาเป็นมุมเฉลียงตรง ๆ ลงมาเลยครับ ไม่มีหัก ๆ กลางคันหรอกค่า ถ้าไม่เชื่อไปดู accessories pouch ของคุณ ๆ ท่าน ๆ หรือดูจากรูปข้างล่างที่ทำสี่เหลี่ยมสีแดงให้ดูได้ต่อลงมาทางซ้ายนะคะ
สีเขียว: ตะเข็บเล็กเกินไป อันนี้ด้าย size ไม่น่าจะเกินเบอร์ 2.5 ด้วยซ้ำ....ตะเข็บเล็กผิดปกติ เดี๋ยวดูรูปด้านล่าง"LOUIS VUITTON"L: หางยาวไป จะทิ่มตัว O อยู่แล้วP: ดูรอยตรงหัวนะคะ อันนี้เป็นเหลี่ยม ๆ ซึ่งของจริงจะมน ๆ A: ขีดตัว A อยู่สูงไป ควรจะอยู่ต่ำกว่านี้ แล้วมุมแหลมของตัว A ไม่แหลมอย่างแรง....ดูภาพประกอบด้านล่างR: นี่ก็ case เดียวกับตัว P แถมที่ขีดของตัว R อยู่ห่างจาก เส้นตรงแนวดิ่งของตัว P ไปเกือบวานึง...ดูรูปด้านล่างสีแดง: U(vuitton) I(Paris) F(France) ควรจะอยู่ในระนาบเดียวกันถ้าเราวาดเส้นตรง.. อันนี้ห่างกันมากกกกmade in France และสีดำ : คำว่า made in France เล็กเกินไป แล้วเส้นสีดำคือความกว้างของคำว่า made in Franceถ้าเราขีดเส้นตรงขึ้นไป....มันจะชนกลาง ๆ ตัว O ทั้งคู่ซึ่งของจริง มันจะต้องกว้างกว่านี้ ....ดูรูปประกอบด้านล่างเช่นกันรูป 2 กับ 3 นี่คือของแท้ เอาไว้ดูเปรียบเทียบ





วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2552
Palette
วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2552
Lip Balm & Lip Gloss
วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2552
MAC
อันถัดมาคือ Fluidline สี Blacktrack ก็คือ อายไลน์เนอร์ สีดำนั่นแหละแต่เป็นแบบเจล อันนี้เหมาะสำหรับมือใหม่ถึงปานกลาง (ก่อนที่จะไปใช้ไลน์เนอร์แบบน้ำ) เพราะเขียนได้ง่ายกว่าและอยู่คงทน ตั้งแต่เช้าเข้างานถึงไปแดนซ์กระจายต่อถึงตีสองก็ยังคงทนงดงามอยู่ ใช้คู่กับพู่กัน Eye liner brush เบอร์ 266 เป็นพู่กันหัวตัดเฉียงสำหรับเขียนขอบตาที่เริ่ด (อีกแล้ว) ตอนแรกๆ อาจจะยังใช้ไม่ถนัดนัก แต่พอเขียนบ่อยๆ เข้าจะเริ่มชิน และสามารถตวัดหางตาได้อย่างคมกริบ แต่ข้อเสียสำหรับ Fluidline คือ พอใช้ไปซักครึ่งกระปุก เนื้อเจลจะเริ่มแห้ง ทำให้เขียนไม่ค่อยติด แต่เราก็มีวิธีแก้อันแสนจะชาญฉลาด (เหอๆ) ด้วยวิธการแสนง่าย เพียงแค่หยด Baby oil ลงไปนิดหน่อยเท่านั้น ก็สามารถทำให้เจลนั้นกลับมาใช้ได้เหมือนเดิม แต่สีอาจจะจางลงหน่อย ถ้าไงก็ดัดแปลงกันเอาเองตามแต่สะดวกนะจ๊า
สำหรับผลิตภัณฑ์ของ MAC ชนิดอื่นๆ ถ้าท่านใดสนใจ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้กับเจ้าแม่แมค (ชีมีเยอะมาก) หรือถามผ่านเดี๊ยนก็ได้นะคะ ยินดีให้คำปรึกษา
ส่วนเซ็ตนี้ไปสอยมาจากเมกา เป็น Limited Edition กระเป๋าในเซตแนวประมาณ Chanel ดูไฮโซทีเดียว ส่วนสีโดยรวมจะออกโทนส้มอมชมพู โดยในเซตจะมี Pigment, Blush และ Lip Glass งามมากกกก ชอบทุกอย่าง สุดๆ เลยอ่ะ คือเป็นเซตที่ใช้ได้ทุกวัน ไม่เวอร์เกิน หรือจะใช้เวลาไปงานก็ได้
Anna Sui
ต่อมา คือ ลิปสติก Sui Rouge no.400 อันนี้ประทับใจนะ ดูจากสีจริงอาจจะคิดว่าเป็นสีแดงสด แต่พอทาแล้วก็จะเป็นลิปสติกที่เหมือนลิปมันมีสีแดงเรื่อๆ เหมาะกับการแต่งหน้าสไตล์สาวญี่ปุ่นเกาหลีคิกขุแอ๊บแบ๊วสุดฤทธิ์
ซึ่งก็ต้องมาต่อกันที่ผลิตภัณฑ์ตัวสุดท้ายนี้ Sui Lip Gloss no.305 ที่เป็นลิปกลอสใสสีชมพูวาวระยับผสมด้วยกากเพชรวิบวับนิดๆ ยิ่งใช้คู่กับลิปสติกด้านบน ปากจะเด้งมาก สามารถเห็นปากได้ตั้งแต่ 200 เมตรก่อนถึงตัว 555 เริ่ดจิงๆ อันนี้ ทาครั้งเดียวปากเด้งทนนาน และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกกุหลาบ อ้อ! ลืมบอกไป เครื่องสำอางค์ Anna Sui ทุกชนิดมีกลิ่นของดอกกุหลาบ ถ้าคนชอบก็โอเค แต่ถ้าใครที่ไม่ชอบกลิ่นกุหลาบเหมือนเรา ก็จะแสลงใจทุกทีที่ใช้ แม่เรายังคิดว่าแป้งเราเหม็นหืนเลย T_T
สำหรับใครที่คิดจะซื้อป้าซุยใช้ก็ลองเอาไปพิจารณาดูดีๆ เพราะบางอย่างก็ไม่แนะนำ แต่บางอย่างก็เริ่ดซะ วันนี้พอแค่นี้ก่อน ไว้คราวหน้าจะมีผลิตภัณฑ์อะไรมาแนะนำกันอีก ก็ต้องติดตามกันต่อไปนะคร้าบบ...พี่น้องคร๊าบบบบ
Benefit
ก็ขอเริ่มด้วยอันแรกๆ ที่ซื้อมาเลย นั่นก็คือ Dallas ที่เป็น blush + bronzer ในตัวเดียวกันที่จะทำให้ใบหน้าเป็นประกายเจิดจรัสดุจต้องแสงอาทิตย์แม้อยู่ในร่ม (เป็นไง? สำนวนสุดยอดมั้ยล่ะ? 555) ถ้าปัดแก้มก็จะเป็น blush สีออกน้ำตาลธรรมชาติ ทำให้หน้าดูระเรื่อเป็นธรรมชาติเหมือนไม่ได้แต่งมาก แล้วถ้าเอามาปัดให้ทั่วหน้าบางๆ ก็จะทำให้หน้าดูไม่ขาวซีด และที่เริ่ดสุดๆ คือ เมื่อออกไปอยู่กลางแจ้งจะทำให้หน้าดูเป็นประกายสวยงาม ชอบสุดๆ คิดดูแม้แต่แม่เรายังชมเลยว่าเราแต่งแบบนี้แล้วงาม นานๆ แม่จะชม หุหุ
อันแรกของเซ็ตที่ขอกล่าวถึงต้องนี่เลย Do it daily! เป็นครีมบำรุงที่ผสมกันแดด SPF10 ตอนนี้เราก็ใช้ทุกวันก่อนแต่งหน้า รู้สึกว่าให้ความชุ่มชื้นกับหน้าดี มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ทาแล้วสดชื่นเหมาะกับตอนเช้าๆ โดยรวมถือว่าใช้ได้ทีเดียว แต่ก็ไม่ได้เห็นผลชัดเจนนักในเรื่องลดริ้วรอย (อันน้อยนิดของเรา หุหุ) แล้วก็พวกรอยแดง รอยดำจากสิว แต่ขอให้คะแนน Packaging มากมาย ชอบนะ ดูธรรมดา แต่แอบกิ๊บ!
อันต่อมา ยังขอเป็นเรื่องการบำรุงอยู่ เนื่องจากว่าหลังๆ เริ่มสำเหนียกตัวเองได้ว่าเริ่มสูงวัยแล้ว (วัยรุ่นเซ็ง) ทำให้เริ่มหันมาทุ่มกับการบำรุง แต่เนื่องจากเราก็ยังไม่ได้มีริ้วรอยเด่นชัดมาก ก็เลยขอใช้แบรนด์เด็กๆ อย่าง benefit ไปก่อน (ไว้อายุมากกว่านี้แล้วค่อยใช้พวก Lancome, Estee อะไรประมาณนั้นแล้วกัน หุหุ) อันนี้ คือ Eyecon ก็เป็นบำรุงใต้ตาให้ไม่หมองคล้ำ ผลจากการใช้ทุกคืนก็ปรากฏว่า ไม่เห็นความแตกต่างอะไรเท่าไหร่ ก็แค่รู้สึกว่าได้บำรุงใต้ตานิดนึง แต่ก็ไม่เห็นช่วยให้ใต้ตาหายดำ อันนี้ไม่รู้เป็นเพราะเรานอนดึกประจำรึป่าวนะ?