วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เกาหลี๊...เกาหลี

ไม่รู้ว่าตอนนี้จะยังอินเทรนด์อยู่รึป่าว? แต่เพิ่งได้ถ่ายรูป เลยอาจจะช้าไปหน่อย จากเดิมที่ไม่เคยแลเครื่องสำอางค์เกาหลี หรือแบรนด์เอเชียเลย เนื่องจากตามความคิดเรา เราว่าผิวหน้าและโครงหน้าไม่ค่อยเหมาะแนวนี้ เลยไม่คิดจะซื้อ แต่พอวันนึงที่สุดที่เลิฟของเราจะต้องไปทำงานที่เกาหลี สาวๆ ที่ทำงานก็จุดประเด็นขึ้นมาว่า Etude และ Skinfood ที่นู่นถูกมากกกก ทีนี้ทุกคนก็เริ่ม search ในเว็บว่ามีอะไรราคาเท่าไหร่บ้าง? พอเห็นราคาแล้วเปรียบเทียบกับราคาที่เคาน์เตอร์เมืองไทย ออร์เดอร์ก็พรั่งพรูมาอย่างล้นหลาม เพราะถูกจริงๆ ราคาแทบจะเท่ากับของก็อป หรือของตามตลาดนัด ลิปสติกอันละร้อยกว่าบาท สาวๆ ก็สั่งกันคนละไม่ต่ำกว่า 3 อัน ส่วนเราออกแนวฉลาดแกมโกง ลิสต์ออร์เดอร์ให้คุณแฟนเสร็จ ก็บอกว่า "ทั้งหมดเนี้ยเอาเป็นของฝากนะ ไม่ได้ฝากซื้อ!" โฮะๆๆๆ เป็นไงล่ะ นอกจากจะได้ของที่ต้องการแล้วยังฟรีอีกต่างหาก 555 ทริปนี้คุณแฟนเลยเหมือนทริป Pre-order เครื่องสำอางค์กันเลยทีเดียว เกริ่นมาเยอะแล้ว เรามาลองดูดีกว่าว่าของฟรีที่ว่ามีอะไรมั่ง
ประเดิมด้วยเครื่องสำอางค์ Etude ก่อน ขอเริ่มจาก Secret Beam แป้งวิ้งๆ ตามแบบฉบับสาวเกาหลี ที่มีสีให้เลือกแค่ 2 สี คือ ขาว กับ ขาวมาก เพราะฉะนั้นสาวผิวสีน้ำผึ้งถึงน้ำผึ้งไหม้ทั้งหลายก็อดกันไป เราก็สั่งสีขาวมากมาลองเล่นดู ก็ขาวสะใจจริงๆ ทาแล้วหน้าเด้ง Glow in the dark กันเลยทีเดียว แถมหน้าจะมีประกายวิ้งเงางาม (เราว่าน่าจะเหมาะกับคนที่ผิวหน้าเนียนๆนะ) แต่หลังจากผ่านมา 2-3 ชม. พอหน้าเริ่มมัน แป้งก็เริ่มเยิ้มเป็นคราบๆ ให้เห็นอย่างเด่นชัด อันนี้เราว่าเค้าคงทำให้เหมาะกับสภาพอากาศเกาหลีที่ไม่ร้อนเหมือนบ้านเรา บวกกับคนเกาหลีผิวเค้าจะละเอียดมาก ซึ่งผิวอย่างเรา ดูจะเหมาะกับแป้งของทางตะวันตกมากกว่า เพราะสังเกตุได้ว่าฝรั่งผิวจะค่อนข้างหยาบ ดังนั้นแป้งตลับนี้ก็เก็บเงียบไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันเท่าไหร่ นอกจากว่าวันไหนนึกอยากแต่งแนวเกาหลีก็ค่อยหยิบมากแตะๆ เอาแค่ประกายวิ้งบางๆ เท่านั้นเอง